โรคท้องมาน
(รูปที่ 1ท้องมาน
,http://thedoctorstory.blogspot.com)
เป็นภาวะที่มีน้ำเกิดในช่องท้องปริมาณมากผิดปกติ เป็นสาเหตุให้ท้องบวมใหญ่ นอกจากนั้นอาจบวมตาม แขน
ขา มือ เท้า
ใบหน้า หรือรอบดวงตาร่วมด้วย
การมีน้ำในช่องท้องปริมาณมากจะดันกะบังลมและดันปอดทั้งสองข้างให้แฟบลง ปอดจึงทำงานได้น้อยลง ก่ออาการแน่นอึดอัด นอนราบไม่ได้เพราะจะหอบเหนื่อย
นอกจากนั้นน้ำในช่องท้องยังกดและเบียดดันกระเพาะอาหารและล้ำไส้ ทำให้กินอาหารไม่ได้หรือกินได้น้อย แน่นอึดอัดท้องอาหารไม่ย่อย ผู้ป่วยจึงผ่ายผอม
แต่น้ำหนักตัวไม่ลดลงมากเนื่องจากน้ำหนักของปริมาณน้ำสะสมในช่องท้อง
น้ำที่เกิดในช่องท้องในภาวะท้องมานมี 2 ลักษณะ
ได้แก่ ลักษณะเป็นน้ำใส ไม่ค่อยมีเซลล์เจือปน ทางการแพทย์เรียกว่า สิ่งซึมเยิ้มใส (Transudate) และลักษณะเป็นน้ำข้นกว่าชนิดแรก
มีเซลล์เจือปนมากกว่าซึ่งอาจเป็นเซลล์จากการอักเสบหรือจากเซลล์มะเร็ง หรืออาจมีเลือดปน ทางการแพทย์เรียกว่า สิ่งซึมเยิ้มข้น (Exudate)
น้ำในช่องท้องชนิดสิ่งซึมเยิ้มใสมักเกิดจากโรคตับแข็ง
ทั้งนี้เชื่อว่าการมีความดันเลือดดำตับและความดันเลือดในช่องท้องสูงขึ้น
ส่งผลให้น้ำซึมออกจากเส้นเลือดเข้าสู่ช่องท้อง
นอกจากนั้นยังเป็นสาเหตุให้เลือดไปหล่อเลี้ยงไตน้อยลง ส่งผลให้เกิดความผิดปกติในการสร้างฮอร์โมนของไต ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมปริมาณน้ำในร่างกาย
จึงเป็นสาเหตุร่วมให้เกิดน้ำในช่องท้องหรือท้องมานเพิ่มขึ้น
รวมทั้งจากการอุ้มน้ำของเกลือโซเดียมที่บริโภคเข้าไป
ส่วนน้ำในช่องท้องชนิดมีเซลล์สูงหรือชนิดสิ่งซึมเยิ้มข้นเป็นน้ำในช่องท้องที่เกิดจากการสร้างน้ำของเซลล์ตับ
หรือเซลล์เยื่อบุช่องท้องที่มีการอักเสบหรือติดเชื้อ หรือจากการสร้างน้ำของเซลล์มะเร็ง
สาเหตุ
สาเหตุของภาวะท้องมานที่พบได้บ่อย
ได้แก่
o
โรคตับแข็ง
o
โรคตับอักเสบ
o
โรคตับวาย
o
โรควัณโรคเยื่อบุช่องท้อง
o
โรคมะเร็ง ทั้งจากโรคมะเร็งของเนื้อเยื่อตับเอง (มะเร็งปฐมภูมิ) และมะเร็งชนิดอื่นๆที่แพร่กระจายสู่ตับ (มะเร็งทุติยภูมิ) และ/หรือ โรคมะเร็งกระจายเข้าเยื่อบุช่องท้อง เช่น
จากโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นต้น
การวินิจฉัย
แพทย์วินิจฉัยภาวะท้องมานได้จากประวัติการเจ็บป่วย อาการของผู้ป่วย การตรวจร่างกาย การตรวจเลือดดูการทำงานของตับและไต การตรวจอัลตราซาวนด์หรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ภาพช่องท้อง
การเจาะหรือดูดน้ำช่องท้องเพื่อตรวจดูเซลล์ (การตรวจทางเซลล์วิทยา) การตรวจย้อมเชื้อจากน้ำในช่องท้องด้วยกล้องจุลทรรศน์ และการตรวจเพาะเชื้อจากน้ำในช่องท้อง นอกจากนี้อาจมีการตรวจวิธีเฉพาะอื่นๆเพิ่มเติม ทั้งนี้ขึ้นกับดุลพินิจของแพทย์
แนวทางการรักษา
ภาวะท้องมานเป็นภาวะที่รักษาและควบคุมได้ยาก
อย่างไรก็ตามการรักษามักต้องรักษาสาเหตุที่ทำให้เกิดท้องมาน เช่น
การให้ยารักษาวัณโรคเมื่อท้องมานเกิดจากเชื้อวัณโรคเยื่อบุช่องท้อง หรือการรักษาโรคมะเร็งที่เป็นสาเหตุ เป็นต้น
นอกจากนั้นอีกวิธีการรักษาที่สำคัญคือ การทำให้ปริมาณน้ำในช่องท้องลดลง หรืออย่างน้อยก็ไม่เพิ่มขึ้น ที่สำคัญได้แก่ การจำกัดน้ำดื่ม
การกินอาหารจืดหรือจำกัดการบริโภคเกลือโซเดียม การให้ยาขับน้ำ การให้ฮอร์โมนชนิดช่วยยับยั้งการเกิดน้ำในช่องท้อง
แต่เมื่อการรักษาต่างๆดังกล่าวไม่ได้ผล
อาจรักษาโดยการเจาะหรือดูดน้ำออกจากช่องท้องเป็นครั้งคราว ทั้งนี้ขึ้นกับอาการแน่นอึดอัดของผู้ป่วย และบางกรณีอาจมีการผ่าตัดเพื่อให้น้ำในช่องท้องไหลกลับเข้าเส้นเลือดดำโดยตรง ซึ่งวิธีการผ่าตัดนี้ให้การรักษาได้เฉพาะผู้ป่วยบางรายเท่านั้น และมักได้ผลน้อย จึงยังเป็นวิธีรักษามาตรฐาน
ผลข้างเคียง
ผู้ป่วยที่มีภาวะท้องมานจะมีภูมิคุ้มกันโรคต่ำกว่าปกติเสมอ และน้ำในช่องท้องเองก็ติดเชื้อแบคทีเรียได้ง่าย จึงอาจเกิดผลข้างเคียงรุนแรงได้
จากการติดเชื้อแบคทีเรียรุนแรงของเยื่อบุช่องท้อง และอาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตอย่างรวดเร็ว
นอกจากนั้นคือปริมาณน้ำจะเพิ่มแรงดันในช่องท้องทำให้แน่นอึดอัด กดเบียดทับกระเพาะอาหาร ลำไส้
และปอด กินไม่ได้ ท้องผูก
หายใจแน่นติดขัด และหอบเหนื่อย
ความรุนแรง
ภาวะท้องมานมีความรุนแรงสูง เพราะรักษาให้หายได้ยาก นอกจากนี้ความรุนแรงของโรคยังขึ้นกับสาเหตุต่างๆ เช่น
เมื่อท้องมานเกิดจากโรคมะเร็ง
ความรุนแรงโรคจะสูงสุด
และยังขึ้นกับการติดเชื้อ
โดยเฉพาะในเยื่อบุช่องท้อง
ความรุนแรงโรคจะยิ่งสูงขึ้น
การดูแลตนเองและการพบแพทย์
การดูแลตนเองที่สำคัญ ได้แก่
o
ปฏิบัติตามแพทย์และพยาบาลแนะนำ
o
กินอาหารจืด จำกัดเกลือโซเดียม และจำกัดน้ำดื่ม
o
รักษาสุขอนามัยพื้นฐาน
เพราะร่างกายอยู่ในภาวะมีภูมิคุ้มกันต่ำกว่าปกติ จึงมีโอกาสติดเชื้อต่างๆได้ง่าย
o
พบแพทย์ตามนัดเสมอ
และรีบพบแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติไปจากเดิมโดยไม่ต้องรอให้ถึงวันนัด